หากกล่าวถึงพิกัดที่ใครต่อใครนิยมไปขอพรความรัก ขอเนื้อคู่ ขอแฟน “วัดหลงซาน” ต้องเป็นจุดเช็คอินอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอน อีกทั้งไทเปยังเป็นประเทศที่มีความใกล้เคียงกับไทยแลนด์ของเราอย่างมาก โดยเฉพาะบรรดาค่าใช้ง่าย แต่ค่อนข้างสะดวกและเดินทางง่าย ซึ่งวันนี้ Everydaytrip จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับวัดดังและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพื้นที่ รวมถึงวิธีขอคนรู้ใจ ถ้าพร้อมแล้วตามมาด่วน ๆ จ้า
วัดหลงซาน ประเทศไต้หวัน พิกัดที่เที่ยวขอแฟนยอดนิยมที่คุณไม่ควรพลาด!!
“วัดหลงซาน” (Lungshan Temple) ได้ชื่อว่าเป็นวัดเก่าแก่อันมีชื่อเสียงโด่งดังจากประเทศไต้หวัน ถูกสร้างขึ้นโดยชาวฝูเจี๊ยนเมื่อช่วงราว ๆ ปีค.ศ. 1738 ซึ่งมีอายุกว่า 300 ปี ด้วยสถาปัตยกรรมแบบวัดในศาสนาพุทธของจีน แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีกลิ่นความเป็นไทเปอบอวลอย่างชัดเจน ในทุกวันบรรดานักท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศต่างแวะเวียนกันมาอย่างไม่ขาดสาย ด้วยความเชื่ออันดึงดูดใจผู้คนด้านการงาน การเงิน การเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “เรื่องความรัก”
ความโด่งดังของวัดหลงซาน เริ่มต้นจากเมื่อครั้งอดีตที่เต็มไปด้วยภัยพิบัติ จนกระทั่งช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง วัดแห่งนี้และโดยรอบถูกทำลายย่อยยับเสียจนแทบสิ้นซาก ทว่าพระแม่กวนอิมที่อยู่ภายในวัด กลับไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่น้อย ชาวบ้านจึงเกิดความเลื่อมใสศรัทธาและบูรณะวัดใหม่อย่างยิ่งใหญ่อลังการ
How to ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด
สำหรับการขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดประเทศแห่งนี้ สามารถทำได้โดยเริ่มจากการเดินเข้าไปทางฝั่ง “ประตูมังกร” ซึ่งจะอยู่ทางขวามือหากหันหน้าเข้าวัด จากนั้นเราจำเป็นจะต้องเดินไปรับธูป (ฟรี) ตามจุดต่าง ๆ เพื่อขอพรเทพเจ้าตามลำดับ ดังนี้
1.โต๊ะบูชา
2.ระเบียงหน้าตำหนัก เพื่อไหว้ขอพรเทพเทียนกง
3.ตำหนักกลาง สักการะเจ้าแม่กวนอิม
4.หลังตำหนักจะมีเจ้าแม่ทับทิมประดิษฐานอยู่ เราสามารถเข้าไปขอพรในเรื่องการงานได้
5.จากนั้นหันไปทางด้านขวามือจะพบกับ เทพเจ้าหลักเมือง เทพเจ้าเหวินชาง และเทพเจ้าตี้จู้เอี๊ยะ โดดเด่นในเรื่องขอพรด้านการเรียน
6.ฝั่งตรงข้ามกับเทพเจ้าหลักเมือง จะเป็นที่ประดิษฐานของ เทพเจ้ากวนอู โดยคนส่วนใหญ่มักมาสักการบูชาในเรื่องการเงิน
7.และข้างกันยังมี “เทพเย่ว์เหล่า” ซึ่งถือเป็นไฮไลท์สำคัญของวัด ที่ทำให้คนโสดทั้งชาวไต้หวันและต่างชาติ แวะเวียนมาขอพรเรื่องความรัก ขอแฟน ขอคนรู้ใจกันอย่างไม่ขาดสาย
ซึ่งเมื่อเราวนรอบตามจุดต่าง ๆ กันแล้ว ก็จะต้องเดินออกทาง “ประตูเสือ” ซึ่งเชื่อว่าที่ตรงนี้จะทำให้คุณได้เสียเงินกันอย่างแน่นอน เพราะมีบริการขายเครื่องรางต่าง ๆ ของทางวัด สำหรับคนไทยอย่างเราไม่ต้องกลัวว่าจะไม่รู้เรื่อง เขาไม่ได้มีแค่ภาษาจีน ไต้หวัน แต่มีตารางอธิบายเป็นภาษาไทยอย่างชัดเจนเกี่ยวกับเครื่องรางแต่ละชนิด มีทั้งเครื่องประดับ พวงกุญแจ และอีกมากมาย
เคล็ดลับมีอยู่ว่าหากเราซื้อเครื่องรางมาแล้ว จะต้องนำไปวนรอบกระถางธูป 3 รอบ ตามเข็มนาฬิกาเพื่อทำพิธี เท่านี้ก็จะได้ของดี ของขลังกลับบ้านแล้วนะ
ตำนานด้ายแดงและวิธีขอพรความรักจาก “เทพเย่ว์เหล่า” แบบละเอียด
ในตำนานกล่าวเอาไว้ว่า “เหวยกู้” คือหนุ่มโสดที่ได้พบกับชายชราหนวดเคราสีขาวรุงรัง ท่านก็คือเทพเย่ว์เหล่า ลักษณะกำลังนั่งอ่านหนังสือ ด้านข้างมีถุงบรรจุด้ายสีแดงเอาไว้ ขณะนั้นท่านกำลังตรวจทานหนังสือบุพเพสันนิวาส และทำนายเหวยกู้ว่า จะได้แต่งงานกับบุตรสาวของแม่ค้าขายผักในเมืองทางตอนเหนือ ซึ่งต่อมาเหวยกู้ก็ได้แต่งงานกับลูกของผู้ตรวจการ แต่ดันมารู้ว่าแท้จริงแล้วภรรยาคือบุตรสาวของแม่ค้า ทว่าผู้ตรวจการนำมาชุบเลี้ยงเป็นอย่างดี ชายหนุ่มจึงสำนึกได้ว่าคำพูดของชายชรานั้นเป็นเรื่องจริง!! ซึ่งอิทธิพลของด้ายแดงของชาวเอเชียก็เริ่มมาจากความเชื่อนี้เช่นกัน
สำหรับการขอพรความรักจากเทพเย่ว์เหล่า วัดหลงซานประเทศไต้หวันสามารถทำได้ ดังต่อไปนี้
1. หยิบ “เซ้งปวย” ลักษณะเป็นไม้สีแดงคล้ายพระจันทร์เสี้ยวแล้วประกบคู่ถือไว้ในมือ
2.บอกชื่อ นามสกุล วันเดือนปีที่เกิด อายุและที่อยู่อาศัยอย่างละเอียดต่อท่านเทพเจ้า
3.อธิษฐานขอพรความรักตามความต้องการอย่างละเอียด ลักษณะรูปร่างหน้าตา ส่วนสูง นิสัยใจคอในแบบที่เราอยากได้มาเป็นคู่ชีวิต
4.จากนั้นให้โยนไม้เพื่อเสี่ยงทาย ซึ่งมีวิธีการดูผลง่าย ๆ ดังนี้
– คว่ำ คว่ำ แปลว่า ไม่ ไม่ได้ ไม่ใช่ และไม่ต้องโยนไม้ต่อ
– หงาย หงาย แปลว่า ไม่แน่ใจ ไม่รู้ ให้โยนใหม่อีกหนและนับรอบใหม่ด้วย
– คว่ำ หงาย แปลว่า ใช่ ได้แน่ ถูกต้อง
ซึ่ง หากเราโยนไม้แล้วได้ “คว่ำและหงาย” ติดต่อกันทั้งหมด 3 ครั้ง จึงจะสามารถเข้าไปหยิบด้ายแดงเพื่อวนรอบกระถางธูปตามเข็มนาฬิกา 3 รอบ และนำกลับบ้านได้
วัดหลงซานจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมในเวลา 06:00-22:00 น. ของทุกวัน ซึ่งการเดินทางมาง่ายมาก ๆ ไม่ยุ่งยากแน่นอน สามารถนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงินและลงสถานี Longshan Temple Station มองหาทางออกที่ 1 จากนั้นต่อต่อไปประมาณ 200 เมตร ก็จะเห็นลานของวัดแล้วล่ะ เชื่อว่าสิ่งนี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังตามหาข้อมูลเกี่ยวกับวัดแห่งนี้ ขอให้การออกเดินทางแต่ละครั้งของทุกคนเป็นไปอย่างราบรื่นนะคะ