หากกล่าวถึงที่เที่ยวโคราชหน้าหนาวยอดนิยม “จิมทอมป์สันฟาร์ม” ก็เป็นจุดเช็คอินที่หลายคนนึกถึงอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเชื่อว่ามีหลายคนยังไม่รู้จักกับพิกัดท่องเที่ยวแห่งนี้กันสักเท่าไร โดยเฉพาะคนไกล คนต่างจังหวัด หากคุณได้มีโอกาสมาเยือนเมืองโคราช ก็อยากให้ลองแวะมาที่นี่กัน แต่เขาก็มีเวลาเปิดปิดฟาร์มนะคะ ส่วนจะมีข้อมูลน่าสนใจอย่างไร? วันนี้ Everydaytrip จะพาไปทัวร์เอง
ความน่าสนใจของ “จิมทอมป์สันฟาร์ม” Jim Thompson Farm
ประวัติของ Jim Thompson Farm
จิมทอมป์สันฟาร์ม เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2531 ซึ่งเดิมทีถูกใช้เป็นแหล่งสำหรับผลิต “ไข่ไหม” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจำหน่ายให้กับเกษตรกรนำไปผลิตเส้นไหม ซึ่งทางฟาร์มก็ได้ผลิตอาหารอย่างใบหม่อนเอง โดยใช้พื้นที่กว่า 600 ไร่ในการเพาะปลูก ในเวลาต่อมาจิมทอมป์สันฟาร์ม ได้เปิดบ้านให้บรรดานักท่องเที่ยวได้เข้ามาศึกษา เรียนรู้วงจรชีวิตของหนอนไหมในปี พ.ศ.2544 ช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม
เวลาต่อมาทางเจ้าของ Jim Thompson Farm ได้ขายกิจการให้เป็นแหล่งเรียนรู้ในหลายด้าน จึงนำบ้านตามสไตล์อีสานเข้ามามีบทบาทในฟาร์ม รวมไปถึงสวนดอกไม้ สวนผักเพื่อการเรียนรู้ทางด้านเกษตร และเปิดให้นักท่องเที่ยวได้แวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชมบรรยากาศ หาความรู้ พร้อมทำกิจกรรมสนุกสนานอย่างมีความสุข สวย ครบ จบในที่เดียว
ที่เที่ยวน่าสนใจใน Jim Thompson Farm
สำหรับจุดเช็คอินของฟาร์มแห่งนี้ เขาจะแบ่งออกเป็นโซนอย่างชัดเจน แต่ละพื้นที่มีไฮไลท์เด็ดรออยู่อย่างแน่นอน เรามาดูกันสักหน่อยดีกว่าว่ามีจุดไหนน่าสนใจบ้าง
1.ทุ่งคอสมอสและแปลงผักปลอดสาร
สำหรับทุ่งคอสมอสแห่งนี้จะมีพื้นที่ด้วยกันทั้งหมดราว ๆ 50 ไร่ เรียกได้ว่าเบ่งบานสวยงาม ถ่ายรูปออกมาเป๊ะปังสุด ๆ วิวด้านหลังเป็นภูเขาลูกเล็ก รายล้อมด้วยต้นไม้ปลูกเรียงเป็นทิว ส่วนบริเวณผักปลอดสารพิษเพื่อน ๆ สามารถแวะเก็บมะเขือเทศเชอรี่ลูกสีแดงสดได้ด้วยนะ หรือหากใครหิวน้ำเขาก็มีอาหารและเครื่องดื่มคอยให้บริการ
2.ลานฟักทองและทุ่งดอกไม้นานาพรรณ
นี่คือจุดเช็คอินที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันมากที่สุด ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะทิวทัศน์ของเหล่าฟักทองลูกสีส้มน้อยใหญ่ ด้านหลังเป็นทิวเขาและอ่างเก็บน้ำลำสำลาย อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญก็คือทุ่งดอกไม้นานาชนิดซึ่งอย่างข้างกัน สายถ่ายรูปทุ่งดอกไม้ กุหลาบ ทานตะวัน อย่าได้พลาดที่เที่ยว Jim Thompson Farm พิกัดนี้เด็ดขาด!!
3.หมู่บ้านอีสาน
สำหรับ “หมู่บ้านอีสาน” นั้นได้เริ่มเข้ามามีบทบาทในจิมทอมป์สันฟาร์ม เมื่อปีพ.ศ.2550 ซึ่งทางเจ้าของฟาร์มได้ริเริ่มนำเอาบ้านในแบบฉบับอีสานอย่าง บ้านโคราช บ้านภูไท เรือนเย้า เข้ามาไว้ในบริเวณเดียวกันเพื่อจัดขึ้นเป็นหมู่บ้านและจำลองวิถีชีวิต วัฒนธรรม รวมไปถึงอาหารการกินของชาวอีสานแท้ เน้นเรื่องการนำเสนอความสารพัดประโยชน์ของ “ผ้าขาวม้า” ให้บรรดานักท่องเที่ยวต่างถิ่นได้มาสัมผัสรสชาติความเป็นตะวันออกเฉียงเหนือ
4.หมู่บ้านจิม
หมู่บ้านจิม เรียกได้ว่าเป็นจุดประสงค์ออริจินัลของ Jim Thompson Farm เลยก็ว่าได้ ที่นี่เป็นพื้นที่สำหรับจัดแสดงให้นักท่องเที่ยวได้มาเยี่ยมชมและเรียนรู้กระบวนการผลิตผ้าไหม โดยเริ่มตั้งแต่การสาวไหม ทอผ้า การพิมพ์ไหมตามแบบฉบับบ้านจิมทอมป์สัน เราสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในทุกกระบวนการได้เลย
5.ตลาดจิม
สำหรับตลาดจิมจะเป็นพื้นที่สำหรับนักช้อปตัวยงให้แวะเวียนมาจับจ่ายใช้สอย ผลผลิตทางการเกษตรจาก Jim Thompson Farm โดยรอบตกแต่งด้วยดอกไม้และพืชพรรณนานาชนิด ผลผลิตที่คนส่วนใหญ่มักหิ้วกลับบ้านก็คือผักปลอดสารพิษปลูกแบบไร้ดิน และของฝากอื่น ๆ ก็น่าสนใจเช่นกัน ที่นี่เขามีแปลงดอกไม้สวย ๆ หลังตลาดอีกด้วยนะ วิวดีมาก
การเดินทางเยี่ยมชมฟาร์ม
เนื่องจากภายในฟาร์มนั้นมีพื้นที่กว้างขวางมาก การจะเที่ยวชมภายในฟาร์มจึงมีทั้งแบบนั่งรถเที่ยวและเดิน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถทัวร์ได้ตามจุดต่าง ๆ ซึ่งจะมีทั้งหมด 5 จุด ตลอดทั่วทั้งฟาร์ม และนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นลงได้ทั้งวัน
ถ้าหากคุณคือผู้มานะบากบั่น มุ่งมั่นว่าจะก้าวเดินด้วยสองเท้า ก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งทางไร่จะมีเส้นทางจัดเตรียมไว้ให้ ทว่าอาจจะไปได้ไม่ทั่วถึง เราจึงอยากแนะนำให้คุณเดินบ้าง ขึ้นรถบ้าง ก็สนุกดีไปอีกแบบ
ค่าตั๋วเข้าชมฟาร์ม
สำหรับค่าบัตรเข้าชมฟาร์ม จะแบ่งออกเป็นสองรูปแบบ ดังต่อไปนี้
1.บัตรล่วงหน้า
วันจันทร์ – ศุกร์ : เด็ก 100 บาท ผู้ใหญ่ 150 บาท ผู้สูงอายุ 90 บาท
วันเสาร์ – อาทิตย์ : เด็ก 140 บาท ผู้ใหญ่ 180 บาท ผู้สูงอายุ 90 บาท
2.บัตรหน้าฟาร์ม
วันจันทร์ – ศุกร์ : เด็ก 130 บาท ผู้ใหญ่ 180 บาท ผู้สูงอายุ 90 บาท
วันเสาร์ – อาทิตย์ : เด็ก 180 บาท ผู้ใหญ่ 220 บาท ผู้สูงอายุ 90 บาท
เพื่อน ๆ น่าจะได้ทราบกันไปแล้วว่า “จิมทอมป์สันฟาร์ม” นั้นมีสิ่งใดน่าสนใจบ้าง ส่วนตัวเราถือว่าเขาเป็นที่เที่ยวสไตล์แหล่งการเรียนรู้ ค่อนข้างเหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ พาเจ้าตัวเล็กออกมาสัมผัสโลกกว้าง หรือจะมาเที่ยวคนเดียวฉายเดี่ยวก็เก๋ไม่เบา พกกล้องดี ๆ สักตัวเพื่อเก็บภาพความทรงจำอันน่าประทับใจ ใครกำลังตามหาที่เที่ยวโคราชในฤดูหนาวสามารถแวะมาได้เลยนะคะ
ทางฟาร์มเขาเปิดให้ชมเพียงแค่ช่วงเดือนธันวาคม – มกราคมของทุกปีเท่านั้นนะจ๊ะ ส่วนจะเปิดวันไหน ต้องติดตามข่าวสารได้ผ่านทาง Facebook Page : Jim Thompson Farm และยังสามารถโทรศัพท์สอบถามโดยตรงได้ที่หมายเลข 02-762-2566 ก็ได้เช่นเดียวกัน