สะพานทุ่งนามุ้ย นครนายก

ช่วงนี้หากเราสังเกตพื้นที่การเกษตรแล้วละก็ เราจะเห็นว่าชาวนาเริ่มมีการไถนาปลูกข้าวกันบ้างแล้ว โดยเฉพาะในแถบภาคกลางและภาคอีสาน วันนี้ Everyday trip จะมาแนะนำสถานที่เที่ยวอย่างสะพานทุ่งนามุ้ย ที่จังหวัดนครนายกค่ะ ที่นี่เป็นที่เที่ยวเชิงเกษตรการทำนาปลูกข้าว เรียนรู้วิถีชีวิตการทำนา เราไปเก็บภาพบรรยากาศทุ่งนาสีเขียวกันค่ะ ไปกันเลย

ที่ตั้งและการเดินทางไปสะพานทุ่งนามุ้ย

สะพานทุ่งนามุ้ย ตั้งอยู่ที่ หมู่ 1 ตำบลสาริกา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก สำหรับการเดินทางไปยัง สถานที่แห่งนี้ จะใช้เส้นทางเดียวกับการไปเขื่อนขุนด่านปราการชล เพราะตั้งอยู่บนถนนสายเดียวกันเลยค่ะ เราสามารถตั้ง GPS ไปถึงจุดหมายที่เที่ยวเราได้อย่างง่ายดายเลยค่ะ

ที่มาของสะพานทุ่งนามุ้ย

ที่นี่มีคุณลุงอ๊อดเป็นเจ้าของไร่ เดิมคุณลุงเป็นเกษตรกรที่ทำนา ทำไร่ ทำสวน โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง เป็นสวนเกษตรแบบผสมมีทั้งแปลงนา สวน บ่อน้ำ ส่วนสะพานที่เป็นชื่อของที่เที่ยวนั้น มาจากบริเวณพื้นที่ทำกินของลุง มีดงหมามุ่ยเต็มไปหมด ยิ่งเวลาน้ำท่วมจะไม่สามารถเดินเข้ามายังทุ่งนาได้เลย คุณลุงจึงแก้ปัญหาด้วยการทำสะพานไม้ไผ่ ทอดยาวไปตามทุ่งนา เพื่อให้สามารถเดินได้สะดวกมากขึ้น แต่หลังจากสร้างสะพานเสร็จ ที่นี่ก็กลายเป็นแลนมาร์คใหม่ขึ้นมาทันที ใครที่ผ่านไปผ่านมาแถวนี้ต้องแวะเก็บภาพกันทุกคน จนในที่สุดก็กลายเป็นที่เที่ยวแห่งใหม่ของนครนายกนั่นเองค่ะ

บรรยากาศ

ที่นี่ได้กลายเป็นที่เที่ยวถ่ายรูปกลางทุ่งนายอดฮิต ไฮไลท์อยู่ที่สะพานไม้ไผ่ที่ทอดยาวกว่า 150 เมตร ผ่านทุ่งนาสีเขียวอย่างสวยงาม และสะพานทำให้มีลักษณะคดเคี้ยวเป็นรูปตัว S พอถ่ายภาพจากมุมสูงแล้วทำให้ทุ่งนาธรรมดา ๆ เปลี่ยนเป็นทุ่งนาที่ดูมีความร่วมสมัยสวยงามขึ้นมาทันที

บรรยากาศโดยรอบของสะพานทุ่งนามุ้ยมีความเงียบสงบ รอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ และต้นไม้น้อยใหญ่สลับกันไปมา ทำให้ที่นี่มีอากาศที่บริสุทธิ์ เย็นสบายแม้ในวันที่มีแดดค่ะ ใครที่ชื่นชอบทุ่งนาและรักการถ่ายรูป เราแนะนำให้ปักหมุดที่นี่เป็นอีกหนึ่งที่ที่ต้องมาให้ได้ค่ะ และถ้าอยากได้ภาพสวย ๆ แนะนำให้ใส่เสื้อผ้าสีสันสดใส ตัดกับสีเขียวของทุ่งนาหรือใส่ชุดพื้นเมืองก็จะเข้ากับบรรยากาศมาก ๆ ค่ะ และยิ่งมีพร็อบถ่ายรูป เช่น หมวก แว่นตา ร่ม จะได้ฟิลการเที่ยวสุด ๆ นอกจากนี้ในช่วงเช้ายังมีกิจกรรมการทำบุญตักบาตรอีกด้วยค่ะ

เที่ยวช่วงไหนดี

ก่อนอื่นต้องแจ้งทุกคนก่อนว่า ที่นี่มีการเก็บค่าเข้า เพื่อนำรายได้มาบำรุงสถานที่ค่ะ ซึ่งค่าเข้าก็แล้วแต่นักท่องเที่ยวจะให้ ส่วนช่วงเวลาที่ควรไปเที่ยวคือ ช่วงทำนานั่นเองค่ะ ถ้าไปช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม ต้นกล้ายังเล็กอยู่ แต่เราจะได้เห็นท้องน้ำที่สะท้อนแสงอาทิตย์สวย ๆ แต่ใครชอบบรรยากาศของทุ่งนาสีเขียวสดเต็มทุ่ง ต้นข้าวโตเต็มที่ก็ต้องไปช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ส่วนช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม จะได้บรรยากาศของทุ่งข้าวสีทองสวยไปอีกแบบค่ะ และเดือนธันวาคม เหมาะกับคนที่ชอบท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้วิถีชีวิตชาวนา เพราะที่นี่จัดกิจกรรมลงแขกเกี่ยวข้าวให้กับนักท่องเที่ยวที่สนใจค่ะ