มีใครเคยได้ยินชื่อ “เกาะพระทอง” ผ่านหูผ่านตากันมาบ้างไหมคะ เมืองพังงาเขามีของดีนะบอกเลย ที่นี่ค่อนข้างโด่งดังเรื่องบรรยากาศที่เหมือนกับทุ่งหญ้าสะวันนา ฟิลต่างประเทศ วิวดี ถ่ายรูปสวย แถมยังเป็นเกาะที่ค่อนข้างเงียบสงบมาก ๆ อีกด้วย เหมาะสำหรับคนรักสันโดษสุด ๆ ไปเลยล่ะ ใครมีแพลนเดินทางไปพังงา บอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาด
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
พาเที่ยว “เกาะพระทอง” ทะเลพังงา วิวสวยอลังการ ทุ่งสะวันนา!
เกาะพระทอง มีความยิ่งใหญ่อลังการและได้ชื่อว่าเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดพังงา จนกระทั่งถูกตั้งเป็นชื่อตำบลกันเลยล่ะ โดยจะมีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 57,500 ไร่ ท่ามกลางผืนทะเลอันดามัน รายล้อมด้วยธรรมชาติอันแสนอุดมสมบูรณ์แทบจะเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ และเต็มไปด้วยสัตว์น้อยใหญ่ มีวิถีชีวิตชาวบ้านอย่างแท้จริงที่ปราศจากไฟฟ้า จะมีก็เพียงแต่แสงไฟจากโซลาร์เซลล์ ที่สำคัญใครอยากมานอนพักค้างแรมเกาะสวยพังงาแห่งนี้ก็มีเพียงกิจการของชาวบ้านที่จัดทำขึ้นเอง กระจายรายได้สู่ชุมชน ใครเป็นสายรักธรรมชาติต้องแฮปปี้กลับไปอย่างแน่นอน
การเดินทาง
สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังเล็งที่เที่ยวพังงาแห่งนี้เอาไว้อยู่ บอกเลยว่าการเดินทางลงเรือมายังเกาะพระทองแห่งนี้สามารถมาได้จากหลายทางมาก ๆ ทั้งจากฝั่งของภูเก็ตและฝั่งของพังงา ซึ่งเราจะต้องไปติดต่อเช่าเหมาเรือยนต์หรือเรือหางยาวบริเวณอำเภอคุระบุรีเข้าไปด้านในได้เลย หรือถ้าติดต่อจองที่พักเอาไว้แล้ว ก็สามารถให้ทางรีสอร์ทติดต่อเรือให้ก็ได้เช่นกัน ทั้งนี้เราจะต้องขึ้นรถกระบะลุยผืนทรายเพื่อเข้าไปลงเรือบริเวณฝั่งทะเลอีกที
บรรยากาศ
สำหรับบรรยากาศภายในเกาะพระทองก็จะค่อนข้างเงียบสงบประหนึ่งว่านี่คือเกาะส่วนตัว นาน ๆ ทีจะเห็นนักท่องเที่ยวหรือชาวบ้านผ่านมา ทว่าไม่ต้องกลัวแต่อย่างใด เมื่อเราจองที่พักเสร็จสรรพทางรีสอร์ทก็จะมีสตาฟ หรือไกด์สำหรับนำเที่ยวไปยังจุดต่าง ๆ ในเวลาต่อมา
แต่สิ่งแรกที่สัมผัสได้เลยก็คือ ความใสของน้ำรอบเกาะในทะเลอันดามันประเทศไทย สวยงามไม่แพ้ชาติใดในโลกอย่างแน่นอน ยิ่งช่วงใกล้ฝั่ง มองลงไปเห็นผืนทรายที่คลื่นทะเลซัดจนเป็นชั้น แต่ทรายใกล้ฝั่งสีออกเหลืองส้มไม่ได้ขาวสักเท่าไร สัมผัสนุ่มเท้า ทำเอาอยากเดินเล่นชมวิวชิลล์ ๆ กันเลยทีเดียว หากมองไปรอบ ๆ ก็จะเห็นต้นไม้น้อยใหญ่ ขึ้นอยู่เขียวชอุ่ม แล้วแต่ฤดูกาล แต่นี่ก็ยังไม่ใช่ไฮไลท์เด็ดเพราะมีจุดเช็คอินที่พี่ ๆ ไกด์รอพาเราไปสัมผัสอยู่
ไฮไลท์น่าสนใจของเกาะ
ทุ่งสะวันนา ประเทศไทย
ใคร ๆ ก็หมายปองทุ่งหญ้าสีทองแห่งนี้เมื่อมาเยือนเกาะพระทอง เพราะเป็นอันซีนพังงาที่ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เคยมอบตำแหน่งให้ ลักษณะภูมิประเทศจะเป็นทุ่งหญ้าเสือหมอบที่แห้งแล้ง เกิดขึ้นบนผืนทรายสีขาว แตกต่างจากทรายบริเวณชายหาดที่เราเห็นกันตอนแรก แซมด้วยต้นเสม็ดขาวรูปร่างแปลกเป็นระยะ แต่ถ้าอยากเห็นบรรยากาศแบบนี้จะต้องมาในช่วงเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ เพราะเป็นหน้าแล้ง แต่ถ้ามาช่วงหน้าฝนเมื่อไหร่บรรดาหญ้าทั้งหมดจะเขียวชอุ่มน้ำ สวยงามไปอีกแบบ
บริเวณป่าสะวันนาเกาะพระทองก็ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยสัตว์แปลกตามากมายที่คนพื้นที่อื่นอาจไม่เคยเห็น อย่างเช่นกวาง ม้า นกแก๊ก เหยี่ยวขาว และอีกมากมาย กิจกรรมห้ามพลาดเมื่อมาเยือนทุ่งหญ้าสะวันนาไทยแลนด์ก็คือ รอชมแสงแรกของวัน พระอาทิตย์ขึ้นช่วงเช้าค่อนข้างเร็ว มีลมเย็นพัดผ่าน อากาศดี สะอาด สดชื่นมาก ชาร์จแบตชีวิตจนเต็มแน่นอน
คลองสีคราม
และอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อไปเยือนเกาะพระทองก็คือ การพายเรือคายักไปตามลำคลองสีคราม ซึ่งเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ซึ่งต้องจองเอาไว้กับทางที่พัก จะมีทีมงานพาเราไปนั่งเรือชมธรรมชาติตลอดลำคลอง อารมณ์ใกล้เคียงกับป่าชายเลน เป็นส่วนที่ต่อออกไปยังทะเล ที่นี่รายล้อมไปด้วยต้นไม้ร่มรื่น โดยเฉพาะต้นจาก และยังอาจพบสัตว์หายากอย่างเช่น งูแปลก ๆ ได้เช่นกัน
The Moken Eco Village
สำหรับที่พักสวย ๆ รองรับนักท่องเที่ยวบนเกาะแห่งนี้จะมีอยู่เพียงแค่ 20 หลังเท่านั้น ซึ่งบริเวณด้านในจะไม่มีเครื่องปรับอากาศใด ๆ ยกเว้นพัดลมให้ในยามร้อน ดังนั้นนี่จะเป็นช่วงเวลาที่เราได้สัมผัส ใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ซึ่งด้านในที่พักจะมีลักษณะเป็นกระท่อมไม้ขนาดเล็ก หลังคามุงจาก วิวดีมาก มองออกไปเห็นทะเลไกล ๆ ท้องฟ้าสีคราม อาหารอร่อยเต็มสิบไม่หัก แต่เวลาเดินต้องระวังสัตว์ให้ดีอย่างเช่น น้องปูเสฉวน อย่าไปเหยียบเขาเข้าล่ะ น้องก็รักชีวิตตัวเองเหมือนกัน
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวเกี่ยวกับ “เกาะพระทอง” ที่เราอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้ลองไปทำความรู้จัก เกาะสวยที่ไม่ค่อยมีผู้คนมากมายเท่าไหร่ เหมาะสำหรับมาใช้ชีวิตอยู่กับตัวเองท่ามกลางธรรมชาติในวันหยุดยาว นอนดูดาว ฟังเสียงคลื่นทะเลซัดฝั่ง ถ่ายรูปกับวิวสวย ๆ วันเดียวไม่พอแน่นอนต้องค้างหลายคืนหน่อย สุดท้ายนี้เราหวังอย่างยิ่งว่าสิ่งที่นำมาฝากจะก่อให้เกิดไอเดียดี ๆ แก่ทุกคนนะคะ
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจของพวกเราเพิ่มเติมได้ที่ Everyday-trip.com