Home เรื่องน่าสนใจ ความแตกต่างของครีมกันแดด SPF กับ PA

ความแตกต่างของครีมกันแดด SPF กับ PA

by everydaytrip
ครีมกันแดด

ไอเทมที่หนุ่ม ๆ สาว ๆขาดไม่ได้เลยเมื่อไปเที่ยวในช่วง summer นั้นคือ ครีมกันแดด เพราะแดดเมืองไทยนี่มันช่างร้อนแรงเสียเหลือเกิน พร้อมที่จะแผดเผาทำร้ายผิวของเราทุกเวลา ถ้าจะใส่เสื้อแขนยาวตลอดเวลาก็คงจะร้อนตายกันไปข้างนึง ครีมกันแดดเลยเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของคนที่ออกไปนอกอาคาร และเรามักจะได้ยินค่ำว่า SPF กับ PA ในโฆษณา ว่าแต่มันคืออะไร แล้วต้องใช้ค่าสูงเท่าไรถึงจะเหมาะกับช่วงน่าร้อยในประเทศไทย วันนี้ Everyday-trip  มีคำตอบมาให้ค่ะ

ความแตกต่างของครีมกันแดด SPF กับ PA

ครีมกันแดด

ค่า SPF คืออะไร

ฉลากบนผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดที่ระบุค่า SPF ไว้หลากหลายระดับ เพื่อให้ผู้บริโภคเลือกใช้ให้ตรงกับความต้องการ ซึ่ง SPF นั้นย่อมากจาก Sun Protection Factor โดยจะเป็นค่าการป้องกันรังสี UVB บ่งบอกให้เราทราบว่า เราจะอยู่กลางแสงแดดจ้าในช่วง summer ได้นานเท่าใดโดยที่ผิวของเราจะไม่โดนทำร้ายหรือไหม้ เช่น ถ้าเราอยู่กลางแดดจ้า 10 นาที จะสังเกตว่าผิวของเราเริ่มแดงไหม้ นั่นหมายความว่าผิวของเราทนแดดได้แค่ 10 นาที แต่หากทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF15 ผิวเราจะทนแดดทนร้อนของช่วง summer
ได้นานถึง 10×15 = 150 นาที ซึ่งผิวเราจะไม่แดงหรือไหม้นั่นเองค่ะ 

การดูดซับรังสี UVB

ครีมกันแดดประเภท SPF จะทำหน้าที่ดูดซับรังสี UVB เป็นคลื่นช่วงสั้นทะลุผ่านหนังกำพร้า และผิวชั้นหนังแท้เท่านั้น เป็นสาเหตุให้เกิดการแดงไหม้ผิวคล้ำ และค่า SPF ก็มีผลต่อปริมาณการดูดซับรังสี UVB ด้วยเช่นกัน เช่นค่า SPF2 จะสามารถดูดซับรังสี UVB ได้ประมาณ 50% SPF 15 ดูดซับรังสี UVB ได้ประมาณ 93.3%  หรือ SPF30 จะสามารถดูดซับรังสี UVB ได้ประมาณ 96.7% และ SPF50 ดูดซับรังสี UVB ได้มากถึง 98% 

ครีมกันแดด

ค่า PA คืออะไร

ส่วนครีมกันแดดที่มีค่า PA หรือ Protection grade of  UVA จะเป็นค่าที่บอกความสามารถในการป้องกันรังสี UVA ซึ่งริเริ่มผลิตในปี ค.ศ. 2006 โดยสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องสำอางของประเทศญี่ปุ่น แต่สาว ๆ เคยสังเกตไหมคะว่า PA นั้นจะไม่มีค่าตัวเลขบอกเหมือน SPF แต่จะใช้เครื่องหมายบวกแทน ซึ่งมีตั้งแต่ PA+ และ PA++++ ยิ่งบวกเยอะเท่าไรค่ายิ่งสูง แล้วจะไปเที่ยว summer ทั้งที่ก็ต้องรู้ว่าควรเลือกระดับไหนค่ะ

การป้องกันรังสี UVA 

ครีมกันแดดแบบ PA จะทำหน้าที่ป้องกันรังสี UVA ซึ่ง เป็นรังสีช่วงคลื่นยาวทะลุผ่านทุกชั้นผิว ทำให้ฝ้า กระ จุดด่างดำ 

PA+ ประสิทธิภาพการป้องกัน UVA ช่วงเริ่มต้น 

PA++ ประสิทธิภาพการป้องกัน UVA ระดับกลาง

PA+++ ประสิทธิภาพการป้องกัน UVA ระดับสูง

PA++++ ประสิทธิภาพการป้องกัน UVA ระดับสูงสุด

ครีมกันแดด

 แต่อย่างไรก็ตาม ครีมจะมีประสิทธิภาพที่เสื่อมลงได้ เช่น ร่างกายระบายความร้อนออกทางเหงื่อครีมกันแดดก็จะโดนเหงื่อ โดนน้ำ และสารต่าง ๆ ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์จะเสื่อมประสิทธิภาพลงไปด้วย เราจะสังเกตได้จาก เมื่อเราไปเที่ยวช่วง summer หรือทาแล้วออกแดดสักพัก ครีมกันแดดจะละลายหรือไปไหลออกมาเหนอะหนะพร้อมกับเหงื่อ ทำให้สาว ๆ ต้องทาซ้ำอยู่บ่อย ๆ ดังนั้น หนุ่มสาวควรเลือกค่าที่เหมาะสม เพราะสูงเกินไปก็ยิ่งละลายและเหนอะหนะมาก เดี๋ยวเที่ยว summer จะไม่สบายตัวและไม่สนุกเอานะคะ

สำหรับคนที่ต้องการเก็บกระเป๋าเที่ยว summer และต้องการพกผลิตภัณฑ์กันแดดไป Everyday-trip หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะมีประโยชน์กับหลาย ๆ คน อย่างไรก็ตาม การเลือกผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ควรเลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิว สภาพอากาศ และกิจกรรมที่เราจะจะทำด้วยนะคะ ขอให้แฮปปี้สู้กับแดดช่วง summer ค่ะ

You may also like

Leave a Comment