คำชะโนด คงเป็นชื่อที่ทุกคนคุ้นหูและรู้จักกันเป็นอย่างดี จากเรื่องเล่าของใครหลายคน ผ่านความเชื่อเกี่ยวกับพญานาค สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หากมองในด้านของการเคารพบูชา เลื่อมใสของชาวบ้านละแวกใกล้เคียงหรือนักท่องเที่ยว ก็ถือว่าเป็นตำนานอันน่าอัศจรรย์ แต่เมื่อมองในเรื่องของภูมิทัศน์ก็ดันแอบแฝงไปด้วยเรื่องน่าฉงนและความสวยงามของผืนป่า ซึ่งเราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับดินแดนแห่งนี้ให้มากยิ่งขึ้น
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
รู้จักกับป่าคำชะโนด ที่เที่ยวอุดรธานี กับความเชื่อของผู้คน
คำชะโนด หรือที่หลายคนเรียกติดปากว่า วังนาคินทร์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของตำบลบ้านม่วง อำเภอ บ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ที่นี่เต็มไปด้วยเรื่องราวและเรื่องเล่า ซึ่งเมื่อมองเข้าไปในผืนป่าขนาดย่อมก็จะพบว่า มีลักษณะคล้ายคลึงกับเกาะขนาดเล็ก เป็นป่าที่ผสมผสานต้นไม้อย่างต้นชะโนด (ไม้จำพวกปาล์ม) มะพร้าว ต้นหมาก และต้นตาล สูงปกคลุมเป็นร่มหนาทึบในสัดส่วนที่เท่ากันได้อย่างลงตัว รายล้อมด้วยบึงน้ำ นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้อากาศด้านในป่าเย็นสบาย
ว่ากันว่าคำชะโนด นั้นคือดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่มนุษย์เอื้อมมือไปพัฒนาพื้นที่ เพื่อเปิดให้คนภายนอกผู้มีความศรัทธาได้เดินทางเข้ามาสักการะ บูชาองค์พญานาค ศาลพ่อปู่ศรีสุทโธ ย่าศรีปทุมมา และละเลียดไปกับตำนานท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่น เย็นสบายราวกับหลุดเข้าไปอยู่อีกมิติหนึ่ง
เรื่องเล่าน่าสนใจ
ป่าคำชะโนด นั้นเคยปรากฏอยู่ในตำนานพื้นบ้านซึ่งความจริงแล้วมีทั้งตำนาน เรื่องเล่าอยู่หลายบทด้วยกัน ตั้งแต่ผีจ้างหนังที่ถูกเล่าสิบต่อกันมา หรือแม้กระทั่งภาพถ่ายติดผีเปรต ชาวบ้านเชื่อว่าที่นี่คือสะพานเชื่อมสองโลก เหนือสิ่งอื่นใดคือป่าศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มีเจ้าพ่อพญาศรีสุทโธเป็นผู้ปกครองอยู่
บรรยากาศในอีกมิติ
อย่างที่หลายคนทราบดีว่า เมืองชะโนดเปรียบเสมือนสะพานเชื่อมต่อระหว่างโลกมนุษย์และเมืองบาดาล การย่างกรายเข้าไปด้านในตอนนี้จะต้องผ่านหลายจุดมาก โดยเริ่มจากการรับบัตรคิว และถ้าหากคนเยอะก็จะต้องนั่งรอต่อแถวสักพัก ซึ่งเราต้องถอดรองเท้าเอาไว้ตามจุดที่ทางเจ้าหน้าที่จัดไว้ให้ และเดินเท้าเปล่าเข้าไปด้านใน โดยเริ่มจากสะพานรูปปั้นองค์พญานาคราชสีเขียวประกาย จะรับรู้ได้ถึงความเย็นเหมือนอยู่คนละโลกกับเมื่อครู่อย่างแท้จริง
ด่านแรกในป่าคำชะโนดก็คือศาลท่านพ่อปู่ศรีสุทโธ แม่ย่าศรีปทุมมา หลายคนนิยมนำบายศรีมาสักการะ บูชา ขอพร หรือบนบาน ส่วนใหญ่จะเป็นในเรื่องของการเงิน โชคลาภ การงาน ส่วนคาถาบูชามีกำกับเอาไว้ในแทนหิน ให้บรรดาลูกศิษย์ลูกหาทั้งหน้าใหม่และเก่าได้ท่องตาม เสร็จจากมุมนี้ต้องเดินเท้าไปตามสะพานไม้ระแนง ไปหยุดที่ต้นมะเดื่อซึ่งอาจมีผ้าสามสี เจ็ดสี ผูกอยู่บ้างแต่ปัจจุบันห้ามนักท่องเที่ยวนำเข้าไปแล้ว ใครจะผ่านก็สามารถเดินออกไปได้เลย
บรรยากาศระหว่างทางออกถือเป็นความงดงามทางด้านภูมิทัศน์อันหาได้ยากที่สุดในโลก ถึงแม้ว่าจะเป็นผืนป่าขนาดเล็กกับต้นชะโนดทรงสูง ไม่น่ามีร่มเงา แต่กลับชุ่มชื้นและเต็มไปด้วยต้นเฟิร์นปกคลุมทั่วผืนดินเลื้อยไปตามลำต้นตรงเด่ เหมาะสำหรับคนชอบป่าฝนชื้น ๆ และเมื่อเดินไปสักพักจะพบเข้ากับจุดสุดท้ายนั่นก็คือบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ลักษณะก่อปูนล้อมรอบเป็นทรงสี่เหลี่ยมทว่าตอนนี้กลับห้ามโยนเหรียญหรือสิ่งใดลงไปแล้ว หากไม่สนใจก็เดินผ่านออกไปยังโลกมนุษย์ตามปกติได้เลย
อีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดที่เชื่อว่าหลายคนชื่นชอบนั่นก็คือแผงลอตเตอรี่ ซึ่งความจริงแล้วมีตั้งแต่ปากทางขาเข้าไปจนถึงขาออก เนื่องจากคำชะโนดโดดเด่นเรื่องการขอพรเรื่องโชคลาภอยู่แล้ว ผู้มาเยือนจึงมักหยิบตัวเลขหกหลักติดไม้ติดมือกลับบ้านไปลุ้นกันเล่นพอเป็นกระษัย เหมือนซื้อเอาความทรงจำดี ๆ จากแลนด์มาร์คดังอุดรธานีกลับบ้านไปด้วย
6 เรื่องห้ามทำในเมืองพญานาค
1.ห้ามสวมรองเท้า หมวก และแว่นตาเข้าไปด้านใน
2.ห้ามจุดธูปเทียน
3.ห้ามโรยแป้ง ขัดต้นไม้
4.ห้ามผูกผ้าเจ็ดสี
5.ห้ามวางบายศรีทิ้งไว้ เนื่องจากมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม
6.ห้ามแต่งกายไม่สุภาพ
วิธีการเดินทาง
สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปยังเมืองพญานาคแห่งนี้ หากมาจากสนามบินอุดรธานีหรือฝั่งอำเภอเมือง ให้ขับรถตามทางหลวงหมายเลข 22 (อุดรธานี-สกลนคร) เพื่อเข้าสู่บ้านหนองเม็ก เพื่อเลี้ยวซ้ายไปยังอำเภอบ้านดุงต่อในระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร ก็จะพบกับผืนป่าคำชะโนด ทั้งนี้ใครสะดวกจะเปิด Google map บอกทางก็ทำได้เช่นกัน
ข้อมูลเพิ่มเติม
เปิดทำการ : 08.30 – 16.30 น. ของทุกวัน
ที่จอดรถ : มี
โทร : 065-885-9065
Facebook : วังนาคินทร์คำชะโนด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี
ที่อยู่ : บ้านเลขที่ 64 หมู่ 11 ตำบลบ้านม่วง อำเภอบ้านดุง อุดรธานี 41190
พิกัด : https://goo.gl/maps/N2CiCXWr992UJa2U9
และทั้งหมดนี้ก็คือข้อมูลและเรื่องราวเกี่ยวกับเมือง คำชะโนด จังหวัดอุดรธานี อันเปรียบเสมือนศูนย์รวมจิตใจของลูกศิษย์ลูกหาที่มีความเชื่อเรื่องพญานาค หากคุณคือคนหนึ่งที่อยากเปิดประสบการณ์ทางด้านสิ่งลี้ลับ รวมถึงตามหาเรื่องราวของผืนป่าที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลก ก็อย่าได้พลาดเดินทางไปสัมผัสด้วยตนเองเด็ดขาด!!
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจของพวกเราเพิ่มเติมได้ที่ Everyday-trip.com