รถไฟลอยน้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ หลายคนคงเคยได้ยินชื่อนี้ หรือเห็นวิวสวยงามผ่านตาตามโซเชียลมีเดียกันมาบ้าง มีใครทราบไหมว่าเขามีรถไฟขบวนพิเศษนำเที่ยวที่จะจอดให้เราได้ชมความงามกลางเขื่อนป่าศักดิ์เป็นเวลาถึงครึ่งค่อนชั่วโมงกันเลยทีเดียว แต่…หนึ่งปีมีแค่สามเดือน ต้องรีบแย่งชิงตั๋วกันหน่อย และถ้าใครสนใจวิวสวยงามอลังการ นี่คือข้อมูลที่คุณควรต้องรู้เอาไว้!!
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
รีวิวรถไฟลอยน้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 2566 – 2567 วิธีจองตั๋วรถไฟลอยน้ำ
รถไฟลอยน้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งใน Bucket list ของใครหลายคนที่ต้องมาเที่ยวให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต การได้นั่งรถไฟเที่ยวผ่านน่านน้ำขนาดมหึมาของประเทศไทย กับวิวทิวทัศน์ที่ราวกับว่าเรากำลังลอยอยู่เหนือผิวน้ำ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนช่างสวยงาม อลังการ แม้ว่าอากาศจะร้อนไปหน่อยก็ตามที และถ้าหากว่าเพื่อน ๆ อยากสัมผัสกับบรรยากาศแบบนี้ เรามีสิ่งที่ควรรู้มาฝาก!
รถไฟลอยน้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เที่ยวช่วงไหน?
รถไฟไปเขื่อนป่าศักดิ์ ความจริงแล้วก็มีให้เราได้เดินทางไปอยู่บ่อย ๆ ทุกวัน แต่ก็เป็นเพียงแค่ทางผ่านเท่านั้น ถ้าหากว่าเพื่อน ๆ อยากไปเพื่อการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ จะต้องรอจังหวะรถไฟนำเที่ยวขบวนพิเศษ ซึ่งมีความพิเศษตรงที่ เขาจะจอดบริเวณโค้งกลางเขื่อนป่าศักดิ์ ให้เราได้ชมวิวเหนือน่านน้ำเขื่อนขนาดใหญ่ ถ่ายรูปเล่นกันตามอำเภอใจเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง แต่มีข้อแม้ว่าขบวนพิเศษนั้นจะเปิดให้นักท่องเที่ยวจองแค่ช่วงเดือนพฤศจิกายน – มกราคมของทุกปี เฉพาะวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ โดยรอบปี 2566 – 2567 มีช่วงวันที่เปิดให้จองตั๋วรถไฟลอยน้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ดังนี้
เดือนพฤศจิกายน 2566 : ให้บริการวันที่ 4, 5, 11, 12, 18, 19, 25 และ 26
เดือนธันวาคม 2566 : ให้บริการวันที่ 2, 3, 9, 10, 16, 17, 23 และ 24
เดือนมกราคม 2567 : ให้บริการวันที่ 6, 7, 13, 14, 20, 21, 27 และ 28
รถไฟนำเที่ยว เขื่อนป่าศักดิ์ มีขบวนไหนบ้าง?
สำหรับเรื่องการจองตั๋วรถไฟไปเขื่อนป่าศักดิ์ชลสิทธิ์ ในขบวนพิเศษนำเที่ยวนั้นสามารถจองทางเว็บไซต์ได้เลย แต่ขอจองล่วงหน้าได้ไม่เกิน 30 วันผ่านทางเว็บไซต์ www.dticket.railway.co.th หรือจองผ่านเคาน์เตอร์ที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ ซึ่งจะมีขบวนที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทาง ดังต่อไปนี้
- รถไฟนำเที่ยวไป-กลับ ชั้นปรับอากาศ
– กรุงเทพ-เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์-กรุงเทพ ราคาคนละ 560 บาท
– สระบุรี/แก่งคอย-โคกสลุง ผู้ใหญ่/เด็ก คนละ 260 บาท
– เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์-กรุงเทพ (เที่ยวเดียว) คนละ 250 บาท
- รถไฟนำเที่ยวไป-กลับ ชั้นธรรมดา
– กรุงเทพ-เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์-กรุงเทพ คนละ 330 บาท
– สระบุรี/แก่งคอย-โคกสลุง ผู้ใหญ่/เด็ก คนละ 130 บาท
– เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์-กรุงเทพ (เที่ยวเดียว) คนละ 150 บาท
บรรยากาศการเดินทาง
สำหรับรถไฟลอยน้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ หากมาจากฝั่งกรุงเทพฯ เราจะเริ่มออกเดินทางกันที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) อย่ามาสายนะเพราะรถไฟออกตรงเวลาเป๊ะ จากนั้นจะแวะรับผู้โดยสารตลอดทางเรื่อย ๆ ถ้าไม่รีบจองล่วงหน้าส่วนใหญ่จะได้ชั้นพัดลม เนื่องจากรถไฟแอร์โดนจองหมดก่อนตลอด สภาพอากาศค่อนข้างร้อน คนแออัด จอแจ เริ่มมีข้าวของมาขายตั้งแต่ช่วงถึงอยุธยา ไม่เหงาปากแน่นอน ทั้งของเปรี้ยว คาว หวาน ใครอยากท่องเที่ยวแบบเงียบสงบ รถไฟไปเขื่อนป่าศักดิ์ชลสิทธิ์ขบวนนี้อาจไม่เหมาะกับคุณ!
แต่พอเริ่มเห็นบรรยากาศของเขื่อน รถไฟเริ่มวิ่งเหนือน้ำ จิตใจของทุกคนก็จะเริ่มจดจ่อกับวิวตรงหน้าที่ได้เห็น มองออกไปนอกหน้าต่าง บ้างก็ยกกล้อง ยกมือถือ ถ่าย VLOG ตามประสาคนยุคโซเชียลฯ เคลื่อนตัวอยู่พักใหญ่รถไฟลอยน้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ก็จะเริ่มชะลอและจอดบริเวณเลยโค้งมาเล็กน้อย นักท่องเที่ยวเริ่มกรูลงรถไฟไปจับจองจุดถ่ายรูป ชมวิว ถ้าใครกำลังตามหาที่เที่ยว ถ่ายรูปสวยฟิลญี่ปุ่นแนะนำที่นี่แหละ จะมีทั้งช่วงที่น้ำเต็มเขื่อนและน้ำลดจนกระทั่งเห็นทุ่งหญ้าสีเขียว ไม่ผิดหวังแน่นอน แต่อากาศก็ยังคงร้อนอยู่เหมือนเดิม
และหลังจากที่จอดให้ชมวิวโดยรอบเสร็จสรรพรถไฟลอยน้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ของเราก็จะจอดแวะให้เราลงไปยืดเส้นยืดสายหลายจุด ทั้งโคกสลุงและเขื่อนป่าศักดิ์ ซึ่งเราสามารถจ้างรถออกไปท่องเที่ยวที่อื่นต่อได้สักพักระหว่างรอรถไฟกลับ ส่วนที่เที่ยวแนะนำก็มีค่อนข้างหลายจุดอย่างเช่น
– สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ซึ่งเป็นเหมือนอควาเรียมขนาดย่อมให้เราเข้าไปศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์น้ำหลากหลายสายพันธุ์
– ไร่ทรัพย์ประยูร อารมณ์เหมือนคาเฟ่สุดร่มรื่นสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ พร้อมของกินมากมายและหมูแคระสุดน่ารัก
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวเกี่ยวกับการท่องเที่ยวรถไฟลอยน้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ที่เราอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้รู้จัก คงได้เห็นกันไปแล้วใช่ไหมว่าที่นี่มีสิ่งอลังการ สวยงาม แปลกตา น่าค้นหา และยิ่งมีเที่ยวรถไฟน้อยก็ยิ่งน่าแย่งชิง สำหรับคนที่อยากจองตั๋วรถไฟไปเขื่อนป่าศักดิ์ชลสิทธิ์อย่าลืมจัดสรรเวลาในการท่องเที่ยวกันให้ดีทั้งแบบ One day trip และแบบค้างคืน สุดท้ายนี้เราหวังอย่างยิ่งว่าข้อมูลทั้งหมดจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจของพวกเราเพิ่มเติมได้ที่ Everyday-trip.com